ผู้สมัครงาน
คนทำงาน GenY ไม่สนใจงานบริหารจัดการคนอื่น แต่สนใจความก้าวหน้าส่วนบุคคล เช่น การเป็น Specialist ในสายอาชีพตัวเอง อ้างอิงจากงานวิจัยของ Washington Post ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คำจำกัดความของความสำเร็จสำหรับ Gen Y ไม่ใช่การได้โปรโมทขึ้นเป็นตำแหน่งผู้นำ เช่น หัวหน้า ผู้จัดการ หรือผู้บริหาร เพื่อได้เงินเดือนที่มากขึ้น แต่ Gen Y ต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายอาชีพมากกว่า
เทรนด์คนทำงานล่าสุดที่น่าจับตามอง Quiet Ambition คนทำงานไม่อยากเป็นหัวหน้า เพราะต้องเจอกับความเครียด ความกดดัน แต่ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แลกกับเวลาส่วนตัวที่หายไป ทำให้รู้สึกว่า ถ้าต้องเจอแบบนี้ขอไม่เป็นดีกว่า ไม่คุ้ม!! สู้เอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง ดูแลครอบครัวดีกว่า หรือที่เราพูดกันบ่อย ๆ ก็คือ Work Life Balance นั่นเอง
เทรนด์คนทำงานที่เกิดขึ้น มีโอกาสส่งผลให้คนทำงาน GenY เลือกงานมากขึ้น นายจ้างก็หาคนในตำแหน่งผู้นำยากขึ้นเช่นกัน เพราะ GenY ต้องการเวลาส่วนตัวมากกว่าตำแหน่งผู้นำท ซึ่งต้องใช้เวลาไปกับการบริหารจัดการคนอื่น ดังนั้น แม้เงินเดือนจะสูงกว่าตำแหน่งทั่วไป แต่ถ้าแลกกับเวลาส่วนตัวที่เสียไป ทำให้ขาด Work Life Balance อาจทำให้ GenY ไม่สนใจร่วมงานด้วย
ถ้านายจ้างประสบปัญหาการหาคน ประกาศงานแล้วไม่มีคนสมัคร ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบงาน จำนวนวันทำงาน การใช้ทักษะในงาน รวมถึงเงินเดือนที่สอดคล้องกับงาน
ปัจจุบันหลายองค์กรก็ลดวันทำงานเหลือ 5 วัน ซึ่งก็ช่วยดึงดูดให้ GenY สนใจมากขึ้น แต่ช่วงก่อนหน้านี้โดยส่วนใหญ่ยังกำหนดวันทำงานไว้ 6 วัน ซึ่งหากจำเป็นสำหรับบางธุรกิจ หากเป็นไปได้ อาจปรับเปลี่ยนให้มีการทำงานแบบ Hybrid คือสามารถทำงานที่บ้าน (Work from Home) สลับกับเข้าออฟฟิศ (Work from Office) ยิ่งถ้าเป็นการทำงาน 5 วันด้วยก็ยิ่งดี หรือสำหรับบางตำแหน่งงานที่เหมาะสม (ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและหน้าที่ความรับผิดชอบ) อาจกำหนดให้ทำงานที่บ้าน 100% ไปเลย จะช่วยให้ Gen Y สนใจร่วมงานมากที่สุดก็ว่าได้
การทำงานที่บ้าน เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้คนหางานมองข้ามเรื่องเงินเดือน นั่นคือ ยอมรับงานที่เงินเดือนน้อยกว่าเข้าออฟฟิศ เพราะไม่ใช่แค่ได้ Work Life Balance แต่การทำงานที่บ้านจะทำให้ได้ Work Life Harmony รู้สึกได้ว่า เรื่องงานกับชีวิตผสมผสานไปด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะความเป็นจริง งานกับชีวิตไม่สามารถแยกออกจากกันได้อยู่แล้ว และหากองค์กรทำให้ Gen Y สามารถนำเรื่องงานกับชีวิตมารวมกันได้นอกจากจะช่วยให้เขามีเวลามากขึ้น ยังส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม การหาคนทำงาน โดยเฉพาะ GenY ที่มีแนวโน้มความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับ Gen Baby Boomer และ Gen X ทำให้นายจ้างต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานที่ให้อิสระด้านเวลาแก่คนทำงานมากขึ้น แต่การคัดเลือกคนก็ต้องเข้มงวดมากขึ้นเช่นกัน นั่นคือ บุคคลนั้นต้องไว้ใจได้ เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ช่วงเวลางานที่เขาอยู่บ้านหรือที่ไหนสักแห่ง เขาทำงานจริงรึเปล่า โดยช่วงแรกที่รับเข้ามาทำงานต้องสังเกตพฤติกรรมเป็นพิเศษหน่อย ซึ่งนายจ้างสามารถรู้ได้จากคุณภาพงานและความตรงต่อเวลา ถ้าเขาทำงานออกมาได้ไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน งานเสร็จตามเวลา และสามารถติดต่อได้ตลอดช่วงเวลางาน ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลค่ะ
สอบถามเพิ่มเติมสำหรับ HR : [email protected]
อัปเดตความรู้สำหรับคนหางาน คนทำงาน สามารถติดตามได้ที่ https://jobbkk.com/go/kr0ws
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด